"กฎหมายค้ำประกัน" ฉบับใหม่ล่าสุด เป็นกฎหมายที่ออกมาเพื่อคุ้มครองสิทธิ และให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ค้ำประกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีการปรับปรุงกฎหมายนี้ หากมีกรณีที่ลูกหนี้เกิดผิดนัดชำระหนี้ขึ้น ผู้ค้ำประกันอาจจะต้องรับผิดชอบในภาระหนี้สินแทนลูกหนี้ทั้งหมด ทั้งในส่วนที่เป็นเงินต้น ดอกเบี้ย และค่าปรับต่างๆ ซึ่งหลังจากที่กฎหมายใหม่นี้ มีผลบังคับใช้แล้วนั้น

ผู้ค้ำประกันจะได้รับการคุ้มครองมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปโดยดังต่อไปนี้
1.การค้ำประกันจะต้องระบุ จำนวนหนี้หรือสัญญา ที่ผู้ค้ำประกันจะค้ำประกันไว้ให้ชัดเจน และ ผู้ค้ำประกันจะรับผิดชอบเฉพาะจำนวนหนี้ หรือสัญญาที่ระบุไว้เท่านั้น
2.สัญญาหรือข้อกำหนดใดๆ ที่ระบุให้ผู้ค้ำรับผิดชอบในฐานะ"ลูกหนี้ร่วม" ถือให้เป็นโมฆะ
3.เพิ่มเติมหน้าที่ของเจ้าหนี้ โดยเจ้าหนี้จะต้องมีหนังสือบอกกล่าวไปถึงผู้ค้ำประกัน ภายใน 60 วัน เมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ และเจ้าหนี้จะเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ก่อนที่หนังสือบอกกล่าวจะไปถึงผู้ค้ำก่อนไม่ได้
4.ให้ผู้ค้ำประกันได้รับประโยชน์ จากการที่เจ้าหนี้กระทำการใดๆ อันมีผลเป็นการลดจำนวนหนี้ให้แก่ลูกหนี้ด้วย
5.กรณีหนี้ที่มีกำหนดระยะเวลาชำระหนี้ที่แน่นอน หากเจ้าหนี้ ยอมผ่อนเวลาให้แก่ลูกหนี้ ผู้ค้ำประกันจะพ้นความรับผิดชอบในหนี้ดังกล่าว เว้นแต่ผู้ค้ำประกันจะร่วมตกลงด้วยกับการผ่อนเวลานั้น และข้อตกลงที่ผู้ค้ำประกันยินยอมให่้เจ้าหนี้ผ่อนเวลาที่ได้ทำไว้ล่วงหน้า ข้อตกลงดังกล่าวจะบังคับใช้ไม่ได้
6.ข้อตกลงเกียวกับการค้ำประกันใดๆ ที่แตกต่างไปจากที่กฎหมายกำหนด และเป็นการเพิ่มภาระให้แก่ผู้ค้ำประกันเกินสมควร ให้ข้อตกลงนั้นเป็นโมฆะ
ที่กล่าวมาข้างต้นนี้เป็นเพียงสรุปสาระสำคัญเบื้องต้นของกฎหมายค้ำประกันฉบับใหม่ที่ได้ออกมาบังคับใช้ทั้งนี้ ถึงแม้ว่ากฎหมายใหม่จะให้ความคุ้มครองกับผู้ค้ำประกันมากขึ้นก็ตาม แต่ในส่วนของลูกหนี้นั้นก็ควรจะต้องมีความรับผิดชอบ และมีวินัยในการชำระหนี้ด้วยนะครับ
Cr : วารสารตรีเพชรอีซูซุ ๔/๒๐๑๖