การขับรถบรรทุกฝ่าเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูฝนหรือพื้นที่เสี่ยงภัย แต่การละเลยการดูแลหลังการลุยน้ำเพียงเล็กน้อย อาจนำไปสู่ความเสียหายร้ายแรงต่อระบบสำคัญของรถบรรทุก ตั้งแต่ระบบเบรก ระบบไฟฟ้า ไปจนถึงเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง บทความนี้จะสรุปขั้นตอนสำคัญที่ผู้ขับขี่และเจ้าของรถบรรทุกควรรีบดำเนินการทันที เพื่อป้องกันความเสียหายระยะยาวและรักษาสภาพรถให้อยู่ในพร้อมใช้งานอย่างปลอดภัย
ขั้นตอน | รายละเอียด | เหตุผล/ข้อควรระวัง |
ห้ามดับเครื่องยนต์ทันที | หากระดับน้ำไม่สูงจนท่วมห้องเครื่อง ควรปล่อยให้เครื่องยนต์ติดไว้สักครู่ | เพื่อใช้ความร้อนของท่อไอเสียช่วยไล่น้ำและความชื้นที่อาจค้างอยู่ในหม้อพักท่อไอเสียออกไป |
ย้ำเบรกเบา ๆ | ขับรถช้าๆ และแตะเบรกเบาๆ หลายๆ ครั้ง | เพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรกและจานเบรก/ดรัมเบรก ช่วยคืนประสิทธิภาพการเบรกและป้องกันการเกิดสนิม |
ย้ำคลัตช์ (สำหรับเกียร์ธรรมดา) | เหยียบคลัตช์ซ้ำๆ เบา ๆ | ป้องกันปัญหาคลัตช์ลื่นที่เกิดจากความชื้น |
ตรวจสอบระบบไฟ | เปิดไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว และไฟส่องสว่างทั้งหมด | ตรวจสอบว่าระบบไฟฟ้าทำงานปกติ และไม่มีน้ำเข้าขั้วหลอดไฟ/โคมไฟ |
จอดรถในที่แห้ง | นำรถไปจอดในพื้นที่ที่แห้งและมีอากาศถ่ายเทดี | เพื่อลดความชื้นสะสมและเป็นจุดเริ่มต้นของการตรวจสอบขั้นต่อไป |
เช็คน้ำมันเครื่อง: ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมา หากน้ำมันเครื่องมีสี ขาวขุ่น คล้ายนม หรือมีลักษณะแยกชั้นอย่างชัดเจน แสดงว่า มีน้ำเข้าสู่เครื่องยนต์ ต้องหยุดใช้งานรถทันที
ตรวจสอบของเหลวอื่นๆ: ตรวจสอบน้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย ว่ามีน้ำเข้าไปปนเปื้อนหรือไม่ (หากตรวจสอบเองได้) หากมีน้ำเข้า ต้องรีบเปลี่ยนถ่ายและทำความสะอาดระบบทันที
ถอดขั้วแบตเตอรี่ (หากรถจมน้ำสูง): หากน้ำท่วมถึงระดับสูงมากจนน่าเป็นห่วง ควรรีบ ถอดขั้วแบตเตอรี่ (ถอดขั้วลบก่อน) เพื่อป้องกันการลัดวงจรและความเสียหายต่อกล่องควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (ECU)
ตรวจสอบกล่องฟิวส์: เปิดฝากล่องฟิวส์และขั้วต่อสายไฟทั้งหมดเพื่อดูว่ามีความชื้นหรือคราบน้ำหรือไม่ หากพบ ให้ใช้เครื่องเป่าลมหรือไดร์เป่าผม (แบบลมเย็น) ช่วยไล่ความชื้น
ระบบเบรก: นอกจากการย้ำเบรกแล้ว ควรตรวจสอบวาล์วเบรก ถังพักลม (Air Reservoir) และส่วนประกอบอื่นๆ ของระบบเบรกและ ABS หากรถจมน้ำทะเลหรือน้ำสกปรก ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเพื่อเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสี่ยงต่อการเกิดสนิมและการทำงานผิดพลาด
น้ำและความชื้นที่ตกค้างในห้องโดยสารคือแหล่งเพาะเชื้อราและกลิ่นอับ
ทำความสะอาดพรมและเบาะ: หากมีน้ำเข้าห้องโดยสาร ควรถอดพรมปูพื้นและเบาะนั่งออกไปทำความสะอาด ผึ่งแดด หรือซักแห้งโดยเร็วที่สุด
ไล่ความชื้น: เปิดประตูและหน้าต่างรถทิ้งไว้เพื่อระบายอากาศ ใช้พัดลมเป่าช่วยไล่ความชื้นในห้องโดยสารและใต้พรม
ระบบปรับอากาศ: เปิดแอร์และพัดลมแรงสุด เพื่อไล่ความชื้นที่สะสมในระบบและป้องกันกลิ่นอับ
หากคุณพบสิ่งผิดปกติเหล่านี้ ควรรีบติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญหรือศูนย์บริการทันที และ ห้ามสตาร์ทรถ โดยเด็ดขาด:
น้ำมันเครื่อง/น้ำมันเกียร์มีสีขุ่น (มีน้ำปนเปื้อน)
น้ำท่วมสูงเกินขอบประตูหรือท่อไอเสีย
มีกลิ่นไหม้ ภายในห้องโดยสารหรือห้องเครื่อง
มีไฟเตือน ระบบสำคัญปรากฏขึ้นที่หน้าปัด
ข้อควรจำ: การดูแลรถบรรทุกหลังการลุยน้ำเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างละเอียดและรวดเร็ว หากไม่มั่นใจในขั้นตอนใด ๆ การนำรถเข้าศูนย์บริการหรืออู่ที่ไว้ใจได้คือทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบระบบสำคัญทั้งหมดอย่างถี่ถ้วน
หน้าที่เข้าชม | 1,339,044 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 853,682 ครั้ง |
เปิดร้าน | 7 ม.ค. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 22 ต.ค. 2568 |