ล้อ และ ยางรถยนต์

          ล้อ และ ยางรถยนต์ มีความสำคัญต่อการเคลื่อนที่บนท้องถนน ของรถยนต์เป็นอย่างมาก เนื่องจากจะต้องใช้ทั้งของเรื่องการเดินทาง และขนส่งสินค้าไปยังสถานที่ต่างๆ ดังนั้น ล้อ และยางรถยนต์ จึงทำหน้าที่ดังต่อไปนี้

1. รองรับน้ำหนักตัวรถบรรทุก

2. ลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนน ป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อถนน และ ตัวรถยนต์ตลอดจนน้ำหนักสิ่งของรถบรรทุก

3. ถ่ายทอดกำลังขับเคลื่อน และต้านทานการหยุดของตัวรถ  (แรงเสียดทาน)การเบรก)

4. เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ของตัวรถ  (การบังคับเลี้ยว)

ยางรถยนต์ (Pneumatic Tire)  

          ยางรถยนต์ คือชิ้นส่วนที่ประกอบด้วย ยาง, ผ้าใบ, เหล็กกล้า, สารเคมี, และวัสดุอื่นๆ เมื่อติดตั้งเข้ากับกระทะล้อ และสูบลมเข้าไปจะทำให้สามารถรองรับน้ำหนัก และทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้เมื่อมีแรงฉุดลาก

โครงสร้างของยาง

ชนิดของยางรถยนต์

1.ยางผ้าใบ (Bais Tire) คุณลักษณะนุ่มนวล การทรงตัวดี และทนทานต่อการสึกหรอ     2.ยางเรเดียล (Radial Tire) คุณลักษณะให้ความนุ่มนวล ทรงตัวดี ทนต่อการสึกหรอสูงและหยุดได้อย่างมั่นใจ (ประหยัดกว่ายางธรรมดาประมาณ5-10%)

ชนิดของยาง แบ่งตามลักษณะดอกยาง

ดอกละเอียด  (Rib Pattern)
ดอกหยาบ (Lug Pattern)
ดอกผสม (Rib Lug Pattern)
ดอกบล็อก (ฺBlock Pattern)

การอ่านรหัสยาง

ตัวอย่างเช่น ยางขนาด 215/70 R15-16PR

การอ่านรหัสกระทะล้อ

ตัวอย่าง เช่น  กระทะล้อขนาด 7.00-JJ-15

          ทุกครั้งที่เปลี่ยนยางหรือกระทะล้อ ควรคำนึงถึงขนาดของยาง และกระทะล้อให้ถูกต้อง บางครั้งอาจมีความจำเป็นต้องสลับยางกัน เนื่องจากยางรถยนต์เมื่อใช้งานไประยะหนึ่ง จะเกิดการสึกหรอของหน้ายางในแต่ละเส้นไม่เท่ากัน จากสภาพการใช้งาน และ สภาพถนน เช่น ล้อที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อน ล้อที่ทำทำหน้าที่บังคับเลี้ยวจะสึกหรอมากกว่าล้อเส้นอื่น ซึ่งสภาพถนนมี่ลาดเอียงไม่เท่ากัน เหล่านี้มีผลต่อการสึกหรอของยางแต่ละเส้นไม่เท่ากัน จึงจำเป็นจะต้องสลับยางรถยนต์ และตรวจเติมลมยางให้ถูกต้องตามค่ามาตราฐาน เพื่อเฉลี่ยค่าการสึกหรอของยาง ฉะนั้นจึงมีคยามจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูแลรักษายางรถยนต์ ให้มีสภาพสมบรูณ์พร้อมใช้งาน เนื่องจากมีความสำคัญต่อการควบคุมรถ ตลอดจนความปลอดภัยต่อชีวิต และทรัพย์สินของผู้ใช้รถ รวมถึงผู้ใช้ทางร่วมกันอีกด้วย

 การสลับยาง ควรสลับยางทุกๆ 20,000 กม. หรือตามค

	รุ่นล้อหลังเป็นยางคู่ (ขนาดล้อของเพลาหน้าและหลังเหมือนกัน)	รุ่นล้อเดี่ยว
	รุ่นเพลาหลัง 2 เพลา (ล้อของเพลาหน้าและหลังเหมือนกัน)	รุ่นที่มียางอะไหล่เก็บไว้ที่ด้านหลัง
	รุ่นเพลาหลัง 2 เพลา (ล้อของเพลาหน้าและหลังแตกต่างกัน)	รุ่นที่มียางอะไหล่เก็บไว้ด้านข้าง

 การตรวจลมยาง ควรตรวจเป็นประจำสัปดาห์ละครั้ง (ตามค่ามาตราฐาน) เพราะหากเติมลมยางมากหรือน้อยเกินไป จะมีผลทำให้เกิดการสึกหรอของหน้ายาง

 CR : ISUZU TRUCK TODAY